ภายหลังความสำเร็จที่หยุดไม่อยู่ของหนังสือประวัติย่อของกาลเวลา (A BRIEF HISTORY OF TIME) ที่เผยแพร่ในปี 1988 ฮอว์กิงกลายเป็นไอคอนของปัญญาชนในยุคที่ผู้คนละเลยเรื่องความรู้อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เรื่องราวชีวิตของฮอว์กิงบันดาลจินตนาการและสร้างความตราตรึงใจผู้คนนับล้านทั่วโลก ภาพลักษณ์ของเขาที่สาธารณชนรับรู้นั้นคือบุคคลที่เหนือกว่ามาตรฐานมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ร่างกายทุพพลภาพและเสียงที่สังเคราะห์จากคอมพิวเตอร์ มีเพียงแต่ส่วนสมอง สติปัญญาที่อิสระจากร่างกาย แต่การนำเสนอเช่นนี้โดยตีความและมุมมองจากภายนอกชีวิตของตัวฮอว์กิงเองย่อมทำให้ความจริงเกี่ยวกับความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์และชีวิตส่วนตัวของเขาเองอาจบิดเบือนไป ซึ่งเป็นความเสียหายล้มเหลวของการที่เราจินตนาการไปเช่นนั้น การไม่ยอมให้ความเจ็บป่วยนิยามตัวตนของเขา การไม่ยอมให้ความเดียวดายหยุดเขาไว้ได้ คือเรื่องราวที่สร้างพลังใจได้โดยไม่มีข้อโต้แย้ง แม้เขาอาจไม่ใช่นักจักรวาลวิทยาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหลังยุคไอน์สไตน์ หรือแม้เขาจะไม่ได้ยืนอยู่ในระดับแนวหน้าของเหล่านักฟิสิกส์ยุคใหม่ เรื่องราวในชีวิตการทำงานของเขานั้นก็ยังน่าตื่นเต้นและตรึงใจ หนังสือเล่มนี้ต้องการแสดงให้เห็นว่าใครก็ตามสามารถร่วมผจญภัยทางปัญญากับสิ่งที่ฮอว์กิงได้ลงมือศึกษาไว้ โดยได้อธิบายภูมิหลังทางวิทยาศาสตร์ของเขาและพยายามที่จะทำให้ความสลับซับซ้อนในทฤษฎีต่างๆ นั้นเข้าถึงและเข้าใจได้โดยไม่ต้องใช้สูตรคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน