วันหนึ่ง.. สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 หรือที่ขนานนามกันว่า พระเจ้าเสือ ได้ปลอมตัวเข้าไปชกมวยในหมู่บ้านอย่างที่ชอบทำเป็นประจำ พระองค์ ได้ชกมวยกัย สิงห์ อย่างดุเด็ดเผ็ดมัน สู้กันอย่างสูสีเป็นเวลานาน ผลสุดท้ายก็เสมอทั้งคู่ ไม่มีฝ่ายใดชนะหรือพ่ายแพ้ พระเจ้าเสือรู้สึกชอบและรู้สึกถูก ชะตากับสิงห์มาก อาจจะเป็นเพราะรักในการชกมวยเหมือนกันก็เป็นได้ วันต่อมาพระเจ้าเสือจึงให้ทหารไปเรียกตัวสิงห์มาเข้าเฝ้า เมื่อสิงห์รู้ว่าคนที่ชกมวย ด้วยวันนั้นเป็นใครก็ตกใจไม่กล้าพูดอะไรออกมา พระเจ้าเสือจึงให้สิงห์เข้ามาทำงานในวังเป็นคนสนิด สิงห์ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ จนได้เลื่อนขั้นเป็น พันท้าย นรสิงห์ ทำหน้าที่เป็นฝีพาย พายเรือพระที่นั่งของกษัตริย์ มีอยู่วันหนึ่งพันท้ายนรสิงห์ได้ยินคนพูดถึงการลอบปลงพระชนพระเจ้าเสือ ก็เกิดวิตกกังวลขึ้นมา ขณะพายเรือพันท้ายนรสิงห์เหม่อคิดถึงเรื่องที่ได้ยินมาจนทำให้หัวเรือพระที่นั่งชนเข้ากับกิ่งไม้จนหัก ..ตามกฎ มณเฑียรบ้านแล้ว นั้นพันท้ายนรสิงห์จะต้องได้รับโทษประหารชีวิต แต่ด้วยเป็นคนโปรดที่สนิดที่สุด พระเจ้าเสือจึงไม่ให้ประหารชีวิตและให้เอาดินเผาปั้น เป็นคนมาตัดหัวแทน พันท้ายนรสิงห์เห็นเช่นนั้นก็กลัวคนอื่นจะครหาพระเจ้าเสือ อีกทั้งยังกลัวพระเจ้าเสือจะทำผิดกฎมณเฑียรบานจึงขอรับโทษประหาร ชีวิตแทน และขอให้สร้าง ศาลเพียงตาไว้ ณ ที่ที่เรือชน ( คลองโคกขาม ปัจจุบัน ) เพื่อเตือนสติฝีพายไม่ให้ประมาท ..หลังจากเสร็จพิธีประหารชีวิตของ พันท้ายนรสิงห์ พระเจ้าเสือ รู้สึกเสียใจและอาลัยแก่คนสนิดที่แสนซื่อสัตย์อย่างพันท้ายนรสิงห์มากถึงกับกรรแสงออกมา เมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น พระเจ้า เสือจึงเกณฑ์พลทหารไป ช่วยกันขุดลอกคันคลองให้มีความกว้างและสามารถเดินทางได้สะดวกกว่าเดิม เพื่อไม่ให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอีก และเลี้ยงดูครอบ ครัวของพันท้ายนรสิงห์อย่างดีจนกระทั่งพระองค์สวรรคต..