งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา งานรบก็เช่นกัน... และนี่คือบทจบของ เกมล่าชีวิต ซึ่งยังคงเข้มข้นและพลิกผันตลอดเวลาเช่นเดียวกับสองภาคที่ผ่านมา ในภาค 2 ปีกแห่งไฟ แคตนิสและพีต้าต้องเข้าสู่เกมอีกครั้งอย่างไม่คาดฝัน แต่คราวนี้ต่างก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นคือทำทุกทางเพื่อรักษาชีวิตของอีกฝ่าย ซึ่งแน่ละว่าเป็นจุดมุ่งหมายที่ขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง และแคปิตอลคงไม่ยินยอมให้มีผู้พิชิตสองคนอีกเป็นครั้งที่สองแน่ แต่ที่น่าแปลกใจกว่านั้น แคตนิสพบว่า นอกจากตัวเธอเองแล้ว ผู้ร่วมแข่งขันอีกจำนวนหนึ่งต่างก็ยอมสละชีวิต เพื่อให้พีต้ารอดเช่นกัน มีอะไรหรือใครอยู่เบื้องหลังเกมนี้อีกอย่างนั้นหรือ? แคตนิสพยายามหาคำตอบเรื่องนี้ แต่ก่อนจะรู้ที่มาของมัน เธอก็ทำในสิ่งไม่คาดฝันอีกครั้ง... แคตนิสระเบิดสนามประลองด้วยธนูดอกเดียว... ธนูดอกเดียวนั้นพลิกประวัติศาสตร์แห่งพาเน็ม และก่อให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงตามมาอีกมากมาย รวมทั้งความลับอันน่าตกใจซึ่งถูกปิดซ่อนมาตลอด 75 ปี นับตั้งแต่ยุคมืดและเกมล่าชีวิตเริ่มต้น! อำนาจเป็นสิ่งหอมหวานเสมอ ไม่มีใครรู้ว่าคนเราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง การส่งเด็กไปฆ่ากันเองในสนามประลอง อาจเป็นเรื่องเล็กน้อย เมื่อเทียบกับอีกหลายๆ เกม ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงของโลกใบนี้ ใน The Hunger Games ซูซาน คอลินส์กระตุ้นให้เห็นผลกระทบของสงครามและความรุนแรงที่มีต่อเด็กซึ่งกำลังก้าวขึ้นเป็นผู้ใหญ่ โดยใช้ฉากและเหตุการณ์ในโลกอนาคตซึ่งเหมือนจริงจนน่ากลัว แม้เกมล่าชีวิตจะมีจุดจบของมัน แต่เกมในชีวิตจริงของเราทุกคนยังดำเนินต่อไป... มันอาจไม่ใช่เกมล่าชีวิตอย่างที่แคตนิสเจอ แต่แน่ใจหรือว่าความรุนแรงเลวร้ายของมันต่างกัน!... บทส่งท้ายของ ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากบฏ จะเป็นอย่างไร? ร่วมหาคำตอบไปด้วยกันจากบรรทัดแรกจนบรรทัดสุดท้าย แล้วคุณจะรู้ว่า ภาคจบของเกมล่าชีวิต จะเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล