มีชีวิตที่คิดไม่ถึง ’ เป็นมุมมองใหม่ในการอธิบายกรรมวิบาก เริ่มจากการแสดงให้เห็นรายละเอียดทั้งหมดในชีวิตเป็นองค์ประกอบของเกม ร่างกายมนุษย์คืออุปกรณ์เล่นเกม ทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวคือแรงบีบคั้นให้ตัดสินใจสะสมแต้มบวกหรือสะสมแต้มลบ นอกจากนั้นยังแสดงให้เห็นด้วยว่าทุกคนมีหนี้ติดตัวมาตั้งแต่เริ่มเล่นเกม หากไม่ใช้หนี้อย่างถูกต้องก็ต้องโดนตามทวงเรื่อยไป เกมดังกล่าวนี้ไม่มีชื่อใดเหมาะไปกว่า ‘เกมกรรม’ ใครเล่นได้แย่ก็รับบทลงโทษที่น่าสะพรึงกลัวเหนือการคาดหมาย แต่หากใครเล่นได้ดีก็อาจมีชีวิตที่คิดไม่ถึง หนังสือจะแสดงให้เห็นว่ามีตัวแปรใดเป็นส่วนประกอบของเกมบ้าง จะเล่นเกมให้ฉลาดได้อย่างไร และสำคัญกว่านั้นคือถ้าเบื่อหน่ายคิดอยากเลิกเล่นเกมจะต้องใช้วิธีไหน สุดท้ายของหนังสือจะมีคะแนนรวมให้ ว่าเล่นเกมมาถึงวันนี้ ติดลบหรือบวกเพิ่มไปแล้วเท่าใด เทียบเคียงกับทุนคือคะแนนเดิมก่อนลงมือเล่นเกมปัจจุบันแล้ว นับว่าคืบหน้าหรือคืบหลังขนาดไหน ลำดับขั้นการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความมีชีวิตที่คิดไม่ถึงมีอยู่อย่างไรบ้าง อ่านจบแล้วอย่างน้อยคะแนนรวมที่พยากรณ์ระดับสุขทุกข์ในชีวิตของคนอื่นใกล้เคียงความจริง น่าจะทำให้ตระหนักว่าทุกคนกำลังร่วมเล่นเกมกรรมกันอยู่จริงๆ !