เชื่อว่า หลายท่านเมื่อได้เห็นชื่อหนังสือเล่มนี้ คงจะสงสัยว่า ไอน์สไตน์พบอะไรหรือ แล้วพระพุทธเจ้าเห็นอะไร ทำไมจึงนำมาจับคู่กันได้สิ่งที่ไอน์สไตน์พบคือ ทฤษฎีสัมพัทธภาพ และความรู้ทางวิทยาศาสตร์ด้านอื่นๆ อีกมากมาย ความรู้เหล่านี้ถือว่าเป็นคุณูปการต่อชีวิตในสังคมยุคใหม่ สิ่งของ เครื่องใช้ อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องเล่น DVD เตาไมโครเวฟ แสงเลเซอร์ จอภาพโทรทัศน์ เครื่องถ่ายเอกสาร โทรศัพท์มือถือ และอื่นๆ อีกมาก ก็ล้วนแต่พัฒนามาจากพื้นฐานความรู้ที่ไอน์สไตน์ค้นพบทั้งสิ้นไอน์สไตน์นั้น นับว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะที่ได้รับการยกย่องจากทั่วโลกให้เป็นบุคคลแห่งศตวรรษที่ 21 ความรู้และทฤษฎีที่เขาค้นพบนั้นลึกลับ ซับซ้อน ช่วงแรกมีคนไม่เชื่อว่าจะเป็นจริง นานหลายปีจึงมีคนเริ่มเห็นด้วย และนำไปสู่วิทยาการพลิกโลกสำหรับพระพุทธเจ้า สิ่งที่ทรงเห็น แตกต่างจากการพบของไอน์สไตน์ เพราะพระองค์ทรงเห็นด้วยพระสัพพัญญุตญาณ นั่นคือ ทรงเห็นสัจธรรม เห็นสิ่งทั้งปวงตามที่เป็นจริงแล้วนำมาเผยแพร่ถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้เห็นเหมือนๆ กับพระองค์เราคงเคยได้ยินคำว่า “มอง...แต่ไม่เห็น” “ฟัง...แต่ไม่ได้ยิน” คำว่าพบและเห็นในที่นี้ก็เช่นเดียวกัน ไอน์สไตน์ได้พบบางส่วนที่นำไปสู่การรู้แจ้ง แต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถข้ามพ้นไปถึงการเห็นเหมือนที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบและเห็นได้การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ของไอน์สไตน์นำไปสู่ผลทั้งด้านดี เช่น เทคโนโลยีต่างๆ ที่พัฒนาไปมากในยุคปัจจุบัน และด้านร้าย เช่น ระเบิดปรมาณู ซึ่งทำให้มีคนตายร่วมสองแสนคนในพริบตาเดียว ระเบิดนี้พัฒนามาจากทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์นั่นเองหนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนได้หยิบยกเอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ มาเชื่อมโยงและสอดรับกับความรู้ทางพุทธศาสนา และสามารถนำมาพิสูจน์ความจริงที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้เมื่อ 2,500 ปีมาแล้วได้ว่า ถูกต้องและเป็นไปได้จริงๆหลายท่านอาจเคยสงสัยว่า โลกและจักรวาลนี้มีมาได้อย่างไร นอกจากจักรวาลนี้แล้วมีจักรวาลอื่นอีกหรือไม่ทำไมอายุขัยของมนุษย์ 100 ปี กลับเป็นเวลาเพียงชั่วครู่เดียวในสรวงสวรรค์ทำไมสุนัขมีอายุขัย 15 ปี แต่ยุงกลับมีอายุแค่ 7 วันเพราะเหตุใดพระองคุลิมาลจึงวิ่งตามพระพุทธเจ้าไม่ทันทั้งที่พระองค์ก็ทรงดำเนินไปตามปกติคำตอบรอท่านอยู่ในหนังสือเล่มนี้แล้วความจริงนั้นพระพุทธเจ้าเห็นก่อน แล้วไอน์สไตน์เพิ่งมาค้นพบความรู้นี้หลังพระพุทธเจ้าถึงสองพันปี แต่เหตุที่หนังสือเล่มนี้เรียงชื่อเป็น “ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น” ก็เพราะต้องการให้ตรงกับการดำเนินเรื่องของหนังสือที่หยิบยกความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ขึ้นมากล่าวก่อน แล้วจึงเชื่อมโยงไปสู่ความรู้หรือความจริงทางพุทธศาสนาในภายหลัง แม้ว่า ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ จะช่วยให้เรามีความเป็นอยู่สะดวกสบายขึ้น แต่ก็เป็นความสุขภายนอก ต่างจากความรู้ทางพุทธศาสนาที่จะช่วยชำระใจภายในของเราให้สะอาดพระพุทธเจ้าคือนักวิทยาศาสตร์ทางใจที่จะช่วยให้เราไม่ต้องทนทุกข์อีกต่อไป